ระบบบำบัดน้ำเสีย
“การให้บริการและการบริหารจัดการงานด้านสิ่งแวดล้อม
ด้วยหลักวิชาการและความซื่อสัตย์ เพื่อความยั่งยืนสำหรับลูกค้าในการแข่งขันทางธุรกิจ”
2. ผู้ควบคุมระบบบำบัดมลพิษ (Pollution Controllers)
3. งานวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม (Environmental Engineering)
4. ควบคุมระบบบำบัดมลพิษ (Operation and Start Up)
5. ตรวจสอบและวิเคราะห์ประสิทธิภาพ (Examination and Efficiency Analysis)
6. ซ่อมแซมและบำรุงรักษา (Repair and Maintenance)
ลักษณะน้ำเสียตามประเภทอุตสาหกรรม เช่น
อุตสาหกรรมอาหาร
น้ำเสียจากอุตสาหกรรมประเภทนี้โดยปกติแล้วจะไม่มีสารอันตราย แต่จะมีความแตกต่างกันตามประเภทโรงงาน วัตถุดิบ กระบวนการผลิตและปริมาณผลผลิต ลักษณะโดยทั่วไปจะประกอบด้วย อินทรีย์วัตถุ, ตะกอนแขวนลอย, ปริมาณและลักษณะน้ำเสีย, น้ำที่ใช้ล้าง (บางครั้งเป็นน้ำร้อน) มักถูกปล่อยออกมาเป็นจำนวนมาก, มักจะประกอบด้วยน้ำมัน ไนโตรเจน และฟอสฟอรัส โดยเฉพาะพวกแป้งและเบียร์จะทำให้มีค่า BOD สูง
อุตสาหกรรมผลิตเหล็กและเหล็กกล้า
เป็นอุตสาหกรรมที่ใช้น้ำในปริมาณสูง น้ำเสียเกิดจากกระบวนการทำความเย็นและทำความสะอาดสำหรับเตาหลอมถ่านโค้ก ประกอบด้วย แอมโมเนีย ไซยาไนด์ ฟีนอล ฯลฯ นอกจากนี้น้ำเสียที่มาจากกระบวนการกำจัดฝุ่นจากเตาหลอมจะประกอบด้วยของแข็งแขวนลอย (ฝุ่นของถ่านโค้กและแร่เหล็ก) และจากกระบวนการล้างด้วยกรดประกอบด้วย กรด เหล็ก และน้ำมัน
อุตสาหกรรมผลิตโลหะที่นอกเหนือไปจากเหล็ก
สินแร่ดิบทองแดง ทองคำ และเงิน โดยปกติมักจะประกอบด้วยสารเจือปนพวกแคดเมียม ตะกั่ว สารหนู ฯลฯ สารเหล่านี้อาจจะถูกละลายออกมาในระหว่างกระบวนการผลิตหรืออยู่ในน้ำเสีย ซึ่งอาจจะตกค้างในดินหรือเกิดการปนเปื้อนในน้ำใต้ดินหากมีกระบวนการระบายน้ำเสียที่ไม่ได้มาตรฐานลงสู่ผิวดิน
อุตสาหกรรมการเคลือบโลหะ
มีการใช้วัตถุดิบและสารเคมีหลายตัวในอุตสาหกรรม ดังนั้นในน้ำเสียจึงประกอบด้วยโลหะหนักหลายชนิด เช่น แคลเซียม สังกะสี ทองแดง ไซยาไนด์ โครเมี่ยมเฮ็กซาวาเล้นท์ กรด และด่าง ฯลฯ
อุตสาหกรรมเซรามิกส์และซีเมนต์
มีน้ำเสียที่ประกอบไปด้วยสารอินทรีย์แขวนลอยที่มีสภาพเป็นด่าง ในส่วนของอุตสาหกรรมเซรามิกส์ยังมีสารจำพวกให้สี และสารพวกวัตถุอันตรายเจือปนอยู่ด้วย